วันเสาร์ที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2554

          วันนี้มาดูกันว่า  การอาบน้ำอุ่น  ดีต่อ สุขภาพ อย่างไร  ถ้าบ้านของคุณมีเครื่องทำน้ำอุ่นอยู่แล้ว  การอาบน้ำอุ่น  อย่างสม่ำเสมอก็คงสามารถทำได้สะดวก  แต่สำหรับบ้านที่ไม่มีเครื่องทำน้ำอุ่น  ก็สามารถที่จะต้มน้ำร้อนอาบบ้างอย่างน้อย 2 สัปดาห์ต่อ 1 ครั้งก็คงไม่วุ่นวายจนเกินไปนักสำหรับ สุขภาพ ที่ดีของเรา
          การอาบน้ำอุ่น  ช่วยกระตุ้นระบบหายใจให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น  ดังนั้นจึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับท่านที่มีสุขภาพหัวใจไม่แข็งแรงนัก
          อุณหภูมิของน้ำที่มีความอุ่นพอเหมาะ  เช่น  45 องศา  ยังจะช่วยเยียวยาอาการของโรคกระเพาะอาหารได้ดีอีกด้วย  ทำให้ร่างกายสดชื่น  ความดันโลหิตเป็นปกติ  นอนหลับสบาย  แต่หากอาบน้ำที่ร้อนมาก ๆ  จะยิ่งทำให้ร่างกายของคุณอ่อนเพลียมากขึ้น  ดังนั้นการอาบน้ำอุ่นบ้างอย่างน้อย 2 สัปดาห์ต่อ 1 ครั้งก็คงไม่วุ่นวายจนเกินไปนัก 

เห็ดหอมดีต่อสุขภาพ


          เห็ดหอมอัศจรรย์ และดีต่อ สุขภาพ คุณประโยชน์มหาศาลที่ เห็ดหอม จะบันดาลให้แก่ สุขภาพ ของคนเราก็คือ บำรุงสมอง  เพิ่มความสดชื่นคึกคัก  ลดคอเลสเตอรอล  ช่วยใน ระบบย่อยอาหาร  ป้องกัน หลอดเลือดแดงแข็งตัว ต้านมะเร็ง รักษา หอบหืด ลดความเครียด ต้านไวรัส บำรุงระบบประสาท ช่วยให้หลับง่าย บำรุงปอด บำรุงหลอดลม ชะลอความชรา ฯลฯ
          คุณควร บำรุงสุขภาพ ด้วยการนำ เห็ดหอม มาปรุงอาหาร ทุกๆ สัปดาห์เป็นประจำ  โดยการนำมาปรุงเป็น อาหารจาน ผัดๆ ต้ม ๆ แต่ไม่ควรรับประทานในปริมาณมากจนเกินไป เพราะอะไรที่มากเกินไปก็ไม่เป็นผลดีต่อ สุขภาพ เหมือนกัน

วันศุกร์ที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2554

เคล็ดลับ วิธีทำให้สดชื่นหลังตื่นนอน

ผิวสวย

วันนี้เรามีเคล็ดลับวิธีทำให้สดชื่นหลังตื่นนอนมาฝากคุณผู้หญิงกันอีกแล้วค่ะ สำหรับใครมักจะตื่นนอนในตอนเช้าหรือว่าตอนไหนก็แล้วแต่ แต่ก็มักจะไม่สดชื่นอาจจะทำให้วันนั้นไม่สดใสสำหรับตัวคุณได้นะ นั้นเราลองมาใช้ วิธีทำให้สดชื่นหลังตื่นนอน ที่เรากำลังจะนำเคล็ดลับนี้มาบอกแก่คุณ เพื่อให้ทุก ๆ วันของคุณนั้นเป็นวันที่สดใสได้นะค่ะ สำหรับเคล็ดลับ วิธีทำให้สดชื่นหลังตื่นนอน นี้ก็เป็นวิธีที่ไม่ยากอีกด้วย หากวันนี้ที่คุณตื่นนอนขึ้นมาแล้วทำให้ไม่รู้สึกสดชื่นเลยก็ลองใช้เคล็ดลับวิธีทำให้สดชื่นหลังตื่นนอนของเรากันได้เลยนะจ๊ะ เชื่อว่าวิธีนี้จะทำให้คุณรู้สึกขึ้นอย่างแน่นอนค่ะ


เคล็ดลับ วิธีทำให้สดชื่นหลังตื่นนอน


วิธีทำให้สดชื่นหลังตื่นนอน


1. เริ่มจากการเดินไปหยิบน้ำมาดื่มสักแก้วใหญ่ให้ชื่นใจ การดื่มน้ำเป็นการเติมน้ำให้กับร่างกายหลังจากร่างกายพักผ่อนมาทั้งคืนซึ่งเป็นวิธีที่ช่วยให้สมองปลอดโปร่งมากขึ้น

2. ออกกำลังกายยืดเส้นกล้ามเนื้อส่วนต่างๆ ภายในร่างกาย 5 - 10 นาที เน้นการยืดในส่วนที่ต้องใช้บ่อยๆ ในการทำงาน เช่น ถ้าต้องใช้คอมพิวเตอร์ช่วยในการทำงานทั้งวันต้องเน้นการออกกำลังที่กล้ามเนื้อบริเวณคอ หัวไหล่ แขน และฝ่ามือ

3. การรับประทานธัญพืชและอาหารที่มีโปรตีนในมื้อเช้า ลดอาหารจำพวกแป้ง การรับประทานอาหารในช่วงเช้ามีประโยชน์ต่อร่างกายเป็นการเตรียมพร้อมให้ร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพตลอดวัน

4. การเปลี่ยนเครื่องดื่มเลิกดื่มกาแฟแล้วหันมาดื่มชาขิง เพื่อช่วยการไหลเวียนของเลือดทำให้ร่างกายอบอุ่น อีกทั้งช่วยให้ระบบการย่อยอาหารทำงานได้ดี


ขอขอบคุณข้อมูลจาก เดลินิวส์ ขอขอบคุณรูปภาพจากอินเตอร์เน็ต

น้ำใบบัวบก ทำตาใสปิ๊ง

อย่าเข้าใจว่า ใบบัวบก มีไว้ แก้ช้ำใน อย่างเดียว เพราะสรรพคุณทางยาตัวอื่น ๆ ที่อยู่ในผักใบเขียว ใบบัวบก ยังมีอีกเพียบ อาทิ บำรุงสายตา บำรุงสมอง ควบคุมระดับแรงดันโลหิตให้เป็นปกติ ลดภาวะความเป็นหมัน ช่วยชะลอความแก่ ช่วยป้องกันร่างกายด้วยการกำจัดสารพิษตกค้างในร่างกาย แก้ช้ำใน บำรุงกำลัง บำรุงหัวใจ แก้อ่อนเพลีย เมื่อยล้า ขับปัสสาวะ แก้อาการเริ่มเป็นบิด ท้องร่วง เป็นยาขจัดเลือดเสีย แก้โรคผิวหนัง แก้พิษงูกัด ระดูขาว ดับพิษไข้ แก้อาเจียนเป็นเลือด และดีซ่าน เป็นต้น 

บัวบก
 เป็นพืชปลูกง่าย มีประวัติการใช้ประโยชน์ทางยามานาน มีใช้ทั้งในตำราอายุรเวทของประเทศจีนและแพทย์แผนไทย พบมากในประเทศแถบยุโรป แอฟริกา อินเดีย ปากีสถาน และศรีลังกา พบว่า ส่วนสำคัญที่มีคุณสมบัติพิเศษอยู่ที่ ส่วนของใบและราก

เมนูสุขภาพทำได้ไม่ยากมาให้ลอง เมนูที่ว่าคือ น้ำใบบัวบก เตรียมส่วนผสม 3 อย่างคือ ใบบัวบก 10 กรัม, น้ำเปล่าต้มสุก 240 กรัม และน้ำเชื่อม 15 กรัม น้ำเชื่อมจะใส่มากใส่น้อย หรือไม่ใส่ก็ตามชอบ 

วิธีทำ ล้างใบบัวบกให้สะอาด นำใส่เครื่องปั่นเติมน้ำต้มสุกเล็กน้อย แล้วปั่นจนละเอียด คั้นกรองเอาแต่น้ำ เติมน้ำเชื่อมปรุงรสตามใจชอบ เมนูอร่อยเพื่อสุขภาพ ท้าให้ลอง

วันพฤหัสบดีที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2554

จริงหรือ? ที่ว่าห้ามใช้ "โน้ตบุ๊ก" บนเตียงนอน

หลายคนอาจกำลังสงสัยว่า
การใช้ โน้ตบุ๊ก บน เตียงนอน นั้น เป็นสิ่งไม่ควรทำเป็นอย่างยิ่ง
จริงหรือไม่นั้น วันนี้เรามีคำตอบ สาระน่ารู้ เรื่องน่าอ่าน ความรู้รอบตัว
จาก นิตยสาร คอมพิวเตอร์ ทูเดย์ คือ จริง และไม่ใช่แค่ ที่นอน เท่านั้น
ที่ไม่ควรใช้ โน้ตบุ๊ก พวก โซฟา หรือพื้นที่มีความนุ่ม ก็ไม่ควรจะนำ
โน๊ตบุ๊ค ไปใช้อย่างยิ่งอีกด้วย

คำตอบจากนิตยสารคอมพิวเตอร์ ทูเดย์ คือ "จริง"
และไม่ใช่แค่ที่นอนเท่านั้น พวกโซฟาหรือพื้นที่มีความนุ่ม
ก็ไม่ควรจะนำโน้ตบุ๊กไปใช้อย่างยิ่ง

ส่วนสาเหตุนั้นก็คือ
เป็นเพราะช่องระบายความร้อนของโน้ตบุ๊กทุกตัวนั้นจะอยู่รอบๆ เครื่องบ้าง
บางยี่ห้อก็อยู่ด้านใต้เครื่อง ยิ่งไปกว่านั้น
โน้ตบุ๊กบางรุ่นยังติดตั้งพัดลมระบายความร้อนไว้ใต้เครื่องอีกด้วย
ไม่เชื่อก็ลองพลิกเครื่องขึ้นมาดู ก็จะพบว่า
มีการออกแบบให้ด้านใต้มีขาเล็กๆ เพื่อยกโน้ตบุ๊กขึ้นมาทั้ง 4 มุม
เพื่อช่วยระบายความร้อน

เวลาเราเอาไปวางไว้บนที่นอนหรือโซฟานั้น ก็จะไปปิดกั้นช่องระบายความร้อนต่างๆ ทั้งหมด

แต่หากต้องการใช้จริงๆ ก็แนะนำให้หาวัสดุที่มีความแข็งและแบนราบมารองก่อน เช่น พวกหนังสือเล่มโตๆ เป็นต้น

ข้อมูลจาก มติชนออนไลน์

เตือน! สาว "ทำสีผม" ระวังอันตราย จาก "ยาย้อมผม"

อันตรายจากการ
ทำสีผม เรื่องน่ารู้ เคล็ดลับ ความสวยความงาม กรม วิทยาศาสตร์ การ แพทย์
เตือน สาวสวย ที่ชอบ เปลี่ยนสีผม ทำสีผม โกรกผม ให้สังเกต ฉลากผลิตภัณฑ์
และปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด หลังตรวจพบมี ยาย้อมผม
ไม่ได้มาตรฐานถึง 30 ตัวอย่าง หลังนำ ยาย้อมผม มาตรวจสอบ 

กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์เตือนสาวที่ชอบเปลี่ยนสีผมให้สังเกต
ฉลากผลิตภัณฑ์และปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด
หลังตรวจพบมียาย้อมผมไม่ได้มาตรฐานถึง 30 ตัวอย่าง

นพ.มานิต ธีระตันติกานนท์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์
เปิดเผยว่า กองเครื่องสำอางและวัตถุอันตราย กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์
ได้ทำการตรวจวิเคราะห์ปริมาณสารควบคุมพิเศษ p-phenylenediamine

ซึ่งเป็นสารเริ่มต้น และ resorcinol
ซึ่งเป็นสารที่ทำให้เกิดสี ในผลิตภัณฑ์
ย้อมผมที่จำหน่ายตามร้านค้าทั่วไปในท้องตลาดในภาคกลาง รวม 8 จังหวัด
ได้แก่ จังหวัดนนทบุรี พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี อ่างทอง สระบุรี
สิงห์บุรี ชัยนาท และลพบุรี ตั้งแต่เดือน เม.ย.-ก.ย. 2550 จำนวน 113
ตัวอย่าง โดยตรวจวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการ ด้วยเครื่องมือพิเศษ High
Performance Liquid Chromatography (HPLC) พบผลิตภัณฑ์
ย้อมผมที่เข้ามาตรฐาน จำนวน 62 ตัวอย่าง ผลิตภัณฑ์ที่ไม่เข้ามาตรฐาน 30
ตัวอย่าง และผลิตภัณฑ์ที่ยังไม่สามารถวิเคราะห์ได้ 21 ตัวอย่าง
ซึ่งจะต้องพัฒนาวิธีวิเคราะห์ต่อไป

อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่า
สารสำคัญที่ใช้ในผลิตภัณฑ์ย้อมผมทั้งสองชนิดนี้
จัดเป็นสารควบคุมพิเศษตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข (ฉบับที่ 38) พ.ศ. 2548
หมายความว่าเป็นเครื่องสำอางที่อาจเป็นอันตรายรุนแรงต่อผู้ใช้
ได้กำหนดอัตราสูงสุด ของการใช้สารทั้งสองชนิดนี้ได้ไม่เกินร้อยละ 6 และ 5
โดยน้ำหนัก ตามลำดับ สำหรับสาร p-phenylenediamine
มีฤทธิ์ก่อให้เกิดการแพ้และทำให้ผิวหนังอักเสบ บางรายมีอาการแพ้ที่รุนแรง
ต้องใช้เวลาในการรักษานาน

ทั้งนี้
ผู้บริโภคควรให้ความสำคัญต่อการเลือกซื้อและใช้ผลิตภัณฑ์ย้อมผม
ก่อนซื้อควรตรวจสอบว่า ผลิตภัณฑ์เหล่านั้นมีฉลากภาษาไทย และระบุชื่อ
ประเภทเครื่องสำอาง ส่วนประกอบสำคัญ ผู้ผลิตและสถานที่ผลิต
วันเดือนปีที่ผลิต คำเตือนบนกล่อง วิธีใช้ และมีเลขทะเบียน
ที่สำคัญควรทดสอบการแพ้ก่อนใช้ตามฉลากทุกครั้ง
และปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด

ข้อมูลจาก ไทยรัฐ ภาพประกอบทางอินเทอร์เน็ต

ออกกำลังกายวันละ 7 นาที 7 วันก็เพียงพอ

     วารสารโรคซึ่งเกิดจากต่อมไร้ท่อพร่อง ชี้ออกกำลังกาย นานแค่ 7 นาที ใน 7 วัน ป้องกันโรคเบาหวานได้ ขณะที่เบาหวานอยู่ในคนกว่า ถึง 246 ล้านคน และเสียชีวิตร้อยละ 6 ต่อปี
     วารสารวิชาการ "โรคซึ่งเกิดจากต่อมไร้ท่อพร่อง"  รายงานแจ้งว่า ผู้เชี่ยวชาญการออกกำลังศึกษาพบว่า ไม่จำเป็นต้องออกกำลังมากเกินไป แต่ออกกำลังอย่างแข็งขัน วันละนานแค่ 7 นาที ใน 7 วันก็พอ จะป้องกันโรคเบาหวาน  และสุขภาพดี  โดยจะควบคุมปริมาณน้ำตาลในเลือดได้
     นักชีววิทยาการออกกำลัง มหาวิทยาลัยเฮเรียตวัตต์ ที่นครเอดินเบอระผู้ศึกษากล่าวว่า การออกกำลังเพียงระยะสั้นๆขนาดนี้ จะไม่ทำให้เสียเหงื่อเลย "เราจะสามารถปฏิบัติเพียงแค่นี้ ให้ได้ประโยชน์ป้องกัน  โรคเบาหวาน เท่ากับที่ต้อง  ออกกำลังกาย  นานหลายชั่วโมงในแต่ละอาทิตย์ และเป็นผลดีต่อ  สุขภาพ  ด้วย"
     ทุกวันนี้โรคเบาหวานได้เบียดเบียนสุขภาพร่างกายชาวโลกโดยประมาณมากถึง 246 ล้านคน และเสียชีวิต ลงปีหนึ่งๆถึงร้อยละ 6 ผู้ป่วยจำเป็นจะต้องควบคุมอาหารและ  ออกกำลัง  อย่างหนักหน่วงติดต่อกัน ถึงจะพอมีอาการทุเลาลงได้ ซึ่งคนส่วนใหญ่ไม่อาจปฏิบัติได้ซึ่งแม้แต่ตัวผมเองก็ยังหาเวลาออกกำลังกายยากเลยครับ ...  แต่ถ้าทำได้ก็จะมีผลดีต่อสุขภาพมาก ๆ เลย

แก้อาการแสบกระเพาะอย่างไร


         แก้อาการแสบกระเพาะอย่างไร - โรคกระเพาะอาหาร  หลายคนคงรู้จักเพราะเคยผ่านการทรมานกับอาการปวดท้อง  และแสบกระเพาะ  แถมยังทำลายสุขภาพ  ซึ่งเป็นเรื่องแสนทุกข์ทรมานอย่างยิ่งสำหรับผู้ป่วยเป็นโรคกระเพาะอาหาร
          วิธีง่าย ๆ  ที่คุณสามารถบำบัดเยียวยาอาการปวดแสบนั้นให้หายไปได้ก็คือ  รับประทานอาหารแต่ละมื้อแต่ละวันเพียงเล็กน้อยพออิ่ม  อย่ารับประทานมาก ๆ  เพียงเพื่อความอร่อยเท่านั้น  โดยเฉพาะอาหารเปรี้ยวจัด  เค็มจัด  เผ็ดจัด  ควรงดรับประทานเด็ดขาด
          การรับประทานกล้วยกับน้ำผึ้งหรือรับประทานเนยถั่วก็เป็นเมนูพิเศษที่ดีสำหรับป้องกันอาการปวดแสบหรือแสบเกี่ยวกับแผลในกระเพาะ  แต่ไม่จำเป็นต้องรับประทานมาก ๆ 
เพียงครั้งคราวก็พอแล้วหัวใจสำคัญอยู่ที่การรับประทานอาหารน้อย ๆ  เท่านั้นเอง  และมีอีกประการหนึ่งที่ทำให้เกิดอาการแสบกระเพาะได้ด้วยเช่นกัน  นั่นก็คือ  การสูบบุรี่  ซึ่งคุณควรเลิกทันทีตั้งแต่เริ่มเป็นโรคกระเพาะ  เพราะมันส่งผลเสียต่อสุขภาพด้านอื่น ๆ อีกด้วย

น้ำมันตับปลา อาหารเสริมที่น่าสนใจ


     น้ำมันตับปลา  ใครไม่รู้จักบ้างครับตอนเด็ก ๆ ผมคนหนึ่งล่ะที่พ่อแม่ให้ทาน  ซึ่งผมไม่ชอบทานมันเลยเป็นแคปซูลเม็ดใหญ่ ๆ  ทานยากมาก  ซึ่งเรามักเข้าใจว่าน้ำมันตับปลาเป็นอาหารเสริมที่เหมาะสำหรับเด็ก ๆ  เท่านั้น  แต่ความจริงแล้วแม้แต่คนในวัยหนุ่มสาว  และผู้ใหญ่  ผู้สูงอายุ  มันก็ดีต่อสุขภาพเหมือนกัน  และเราก็สมควรสนใจอาหารเสริมตัวนี้อย่างจริงจังเช่นกัน
     น้ำมันตับปลา  ช่วยบำรุงร่างกายให้แข็งแรง  กระตุ้นให้การเผาผลาญในร่างกายเป็นไปอย่างดีเยี่ยม  เด็ก ๆ  หรือผู้ใหญ่ที่เริ่มจะผอมแห้งแรงน้อย  เจ็บป่วยง่าย  ร่างกายขาดสารอาหาร  ก็ควรรับประทานน้ำมันตับปลา  ซึ่งปัจจุบันก็มีรสต่าง ๆ  เพื่อให้รับประทานได้ง่ายขึ้น  และมีชนิดแคปซูลอีกด้วย
     เป็นงัยกับบ้างครับเริ่มสนใจ  น้ำมันตับปลากันบ้างหรือยังครับ  ผมคิดว่ามันเป็นอาหารเสริมที่น่าสนใจตัวหนึ่งที่ไม่น่ามองข้าม  สำหรับคนที่ต้องการดูแลสุขภาพตังเอง  และดูแลสุขภาพของคนที่เรารัก  และห่วงใย

วันพุธที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2554

ดูแลสุขภาพเด็ก ๆ มิใช่การให้กินจุ


          วันนี้มาคุณกันถึงเรื่อง สุขภาพการกิน และอาหารของเด็ก ๆ  คนเป็นพ่อแม่ส่วนมากก็จะพยายามให้ลูก ๆ กินกันเยอะ ๆ กินให้มาก ๆ กินให้เต็มที่  ก็เลยต้องพูดถึง การดูแลสุขภาพเด็ก ๆ เกี่ยวกับการให้กินจุ หรือกินมาก ๆ คุณแม่ทั้งหลายที่รักและหว่งลูกอย่างไม่ถูกต้องมักจะให้คุณลูกรับประทานอาหารเยอะ ๆ โดยหวังว่าลูกจะได้อ้วนจ้ำม่ำ  ซึ่งเป็นความเข้าใจผิดไปมาก ๆ สำหรับ  สุขภาพการกิน ของเด็ก ๆ
          เด็ก ๆ ที่มีร่างกายผอมบางมิใช่จะเป็นเด็กไม่สมบูรณ์แข็งแรงเสมอไป  และเด็กอ้วนมาก ๆ ก็ยิ่งจะมีปัญหาด้าน สุขภาพ มากกว่าเด็กผอมอีกด้วย
          เด็กอ้วนจะสร้างเซลล์บางชนิดที่มิอาจจะทำลายได้ลง  ตลอดไปและนั่นคือตัวการทำให้เด็กอ้วนนั้นมีน้ำหนักมากขึ้น
          เด็ก ๆ ควรรับประทานผักสดและผลไม้สม่ำเสมอ และรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่  เพื่อเสริม สุขภาพ และทำให้ปลอดจากอาการท้องผู้หรือ ท้องร่วง  ร่างการจะเจริญเติบโตได้เร็วและมี สุขภาพดี แน่นอน

คนสายตาสั้นควรสนใจวิตามินใดบ้าง


          คนสายตาสั้นควรสนใจวิตามินใดบ้าง  การบำรุงสุขภาพสายตา  ใครคิดว่าไม่สำคัญ  อย่างคิดว่าเมื่อสายตาสั้นแล้วก็จะต้องสั้นมากขึ้นเรื่อย ๆ  เสมอไปนะ
          เนื่องจากว่าเซลล์ประสาทตานั้นจะไม่เสื่อมลงไปถ้าได้รับการบำรุงที่ดี  โดยมากเราจะเคยได้รู้เพียงว่าคนที่รับประทานวิตามินเอเป็นประจำสม่ำเสมอจะมีดวงตาสวย  สายตาดี  เพราะวิตามินเอเกี่ยวข้องกับสายตาโดยตรงอยู่แล้ว
          แต่ทางวิทยาศาสตร์การแพทย์ได้ค้นคว้าพบว่าวิตามินบี 1  และวิตามินอี  มีคุณสมบัติช่วยบำรุงเรื่องตาของคนเราได้เป็นอย่างดี
          การขาดวิตามินดีทำให้จอรับภาพของตาเสื่อม  การขาดวิตามินบี 1  ประสาทที่ทำหน้าที่นำภาพไปสู่สมองก็จะเกิดผิดปกติ  มีผลทำให้ประสาทเสื่อม
          อาหารที่เป็นแหล่งวิตามินอี  และ  บี1  ที่ดีได้แก่  ตับ  นม  ถั่วลิสง  ถั่วต่างๆ  ข้าวซ้อมมือ  เต้าหู้  เนื้อหมู  งา  กระเทียม  และสาหร่าย

วันอังคารที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2554

ปัญหาของการดื่มสุราในวัยรุ่น


แอลกอฮอล์ในเครื่องดื่มทุกประเภท นอกจากจะมีผลต่อสุขภาพร่างกายแล้ว ยังทำให้ความสนใจในการเรียนลดลง สมาธิลดลง ทำให้อารมณ์หงุดหงิด นิสัย และพฤติกรรมเปลี่ยนไปในทางก้าวร้าวในวัยรุ่น ตามสถิติพบว่า ผู้ที่ดื่มสุราตั้งแต่อายุน้อยๆ จะเกิดปัญหาที่รุนแรงกว่าและแก้ไขยากกว่า และพวกที่ดื่มประจำ มักจะเป็นพวกสูบบุหรี่จนติด และมีโอกาสที่จะเสพยาเสพติดอื่นๆ มากกว่าคนทั่วไป

1. การดื่มสุราในวัยรุ่นเป็นปัญหาสำคัญอย่างหนึ่งที่นำมาซึ่งความเสียอกเสียใจของพ่อแม่ผู้ปกครอง ตลอดจนตัววัยรุ่นเองก็ตาม
2. ปัญหาที่เกิดขึ้นที่พบได้บ่อยๆ ได้แก่ การสนุกสนานเกินขอบเขตจนเกิดการทะเลาะวิวาททั้งส่วนตัวหรือระหว่างกลุ่ม ซึ่งวัยรุ่นมีเลือดรักเพื่อนพ้องอย่างรุนแรง
3. ปัญหาการศึกษาเล่าเรียนเนื่องมาจากไปหมกมุ่นอยู่กับการเที่ยวเตร่ การดื่มสุรา โดยเฉพาะเวลาดึกดื่นค่ำคืนไม่มีเวลาให้กับการทบทวนบทเรียน
4. ปัญหาเรื่องอุบัติเหตุจากการจราจรที่เกี่ยวข้องกับการดื่มสุราในวัยรุ่น ปัจจุบันมีมากขึ้นเรื่อยๆ บางรายรุนแรงจนถึงแก่ชีวิต บางรายกลายเป็นคนพิการตลอดชีวิตตั้งแต่อายุน้อยๆ บางรายใช้เวลารักษาเป็นปีๆ ต้องออกจากโรงเรียน หมดอนาคตที่คาดหวังว่าจะรุ่งเรือง เป็นภาระของพ่อแม่พี่น้องผู้ปกครองที่จะต้องดูแลช่วยเหลือ เป็นภาระของสังคมและของรัฐบาลที่จะต้องหาทางช่วยเหลือ ให้มีโอกาสทางสังคมดีขึ้น
5. ปัญหาเรื่องค่าใช้จ่ายของพ่อแม่ผู้ปกครอง ซึ่งโดยปกติวัยรุ่นเป็นวัยที่อยู่ในระยะของการศึกษาเล่าเรียน ไม่มีรายได้จากการทำงาน เว้นแต่เงินที่พ่อแม่ผู้ปกครองให้ใช้จ่าย การดื่มสุราย่อมต้องใช้เงินมากขึ้น และจะเกิดปัญหาขึ้นได้กับครอบครัวที่ไม่มีรายได้มากนัก สิ่งเหล่านี้จะนำไปสู่ปัญหาของเรื่องอาชญากรรมลักเล็กขโมยน้อย จนกระทั่วการปล้นจี้ก็เกิดขึ้นได้ เพื่อให้มีเงินเอาไปใช้จ่ายเที่ยวเตร่ ดื่มสุราฮาเฮเช่นที่เคยปฏิบัติมา
ที่มา: จุลสารสุราหรือสุขภาพ สำนักคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

ซดเหล้าแก้หนาวถึงตาย

ซดเหล้าแก้หนาวถึงตาย


          เตือนดื่ม "สุรา" ช่วยคลายหนาวเป็นความเชื่อที่ผิด เพราะมีผลต่อระบบทำงานของหัวใจ เสี่ยงถึงชีวิต

          น.พ.วุฒิไกร มุ่งหมาย นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดอุบลราชธานี กำชับให้สำนักงานสาธารณสุขอำเภอและผู้อำนวยการโรงพยาบาลชุมชน รณรงค์ความรู้เรื่องการป้องกันโรคในฤดูหนาว โดยเฉพาะความเชื่อผิด ๆ ซึ่งก่ออันตรายต่อสุขภาพที่ว่า การดื่มสุราช่วยคลายหนาว เพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ทำให้ร่างกายอุ่นขึ้น แต่แท้จริงแล้วผลลัพธ์ตรงกันข้าม เนื่องจากฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ช่วยคลายความหนาวเย็นไม่ได้ และอาจเป็นอันตรายถึงชีวิต

          น.พ.วุฒิไกร กล่าวว่า สุราทั่วไปมีเอทิลแอลกอฮอล์ที่กินได้ผสมอยู่ปริมาณไม่เกิน 60 เปอร์เซ็นต์ หากดื่มมากหรือนานขึ้น แอลกอฮอล์จะไปกดประสาทส่วนกลาง ทำให้มีอาการง่วง งง ซึม และหมดสติ ถ้าผู้ดื่มอยู่ในพื้นที่อากาศหนาวเย็นยิ่งเสี่ยงอันตราย เพราะความเย็นจะทำให้ร่างกายมีความหนืดมากขึ้นการไหลเวียนของโลหิตลำบาก เมื่ออวัยวะขาดออกซิเจน หัวใจต้องทำงานหนัก เพื่อสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงร่างกาย ทำให้ช็อกและเสียชีวิตง่ายขึ้น จึงขอเตือนประชาชน อย่าหลงเข้าใจผิดในเรื่องการดื่มสุราเพื่อคลายหนาว 

วันจันทร์ที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2554

ผลดีและผลเสียของการดื่มเบียร์

ใครที่ชอบดื่มเบียร์ วันนี้เดลินิวส์ออนไลน์มีผลดีและผลเสียของการดื่มเบียร์มาบอก...


เบียร์เป็นเครื่องดื่มที่ใครหลายคนติดใจเป็นหนักหนา เพราะรสชาติที่มันนุ่มลิ้นดีแท้

นักวิจัย กล่าวว่า

เบียร์นั้นมีประโยชน์ต่อร่างกาย ดีต่อหัวใจ จากการวิจัยของมหาวิทยาลัย
Emory กล่าวว่าผู้หญิงและผู้ชายสูงอายุ 2,200 คน ที่ดื่มเบียร์วันละ 1.5
แก้วต่อวัน จะมีการเสี่ยงต่อโรคหัวใจล้มเหลวลดลง 50 เปอร์เซ็นต์ 
เบียร์ยังดีต่อสมองอีกด้วย นักวิทยาศาสตร์ในบอสตัน พบว่า ผู้ที่ดื่มเบียร์ตั้งแต่หนึ่งถึง
6 แก้วต่อสัปดาห์ จนถึงผู้ที่ดื่ม 7-14 แก้วต่อสัปดาห์
จะเกิดอาการชักได้น้อยกว่าผู้ที่ไม่ดื่มเลย
แต่ถ้าผู้ที่ดื่มเกินกว่านี้ก็จะมีอาการชักได้มากที่สุด
เพราะเบียร์สามารถช่วยลดขนาดเม็ดเลือดและไม่ทำให้เลือดไปครั่งที่สมองได้


นอกจากนี้เบียร์ยังช่วยในการลดความเครียด
ลดความกังวล และความประหม่าได้ รวมทั้งยังทำให้อารมณ์ดี
แถมยังมีสารอาหารอย่าง โปรตีน วิตามิน B ฟอสฟอรัส แมคเนเซียม เซเลเนี่ยม
และธาตุเหล็ก

ผลเสียของเบียร์


ไม่ใช่เฉพาะเบียร์ที่จะทำให้เกิดผลเสีย
เครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ทำให้เกิดผลเสียทุกชนิด โดยเฉพาะกับตับ
ซึ่งต้องทำงานหนักเป็นพิเศษเวลาที่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์เข้าไป
ตับเป็นอวัยวะที่ช่วยขับพิษออกจากร่างกาย แต่ถ้าตับเสียหาย
ร่างกายก็จะเต็มไปด้วยพิษ แถมที่สำคัญเบียร์ทำให้บวมอ้วนอีกด้วย

รู้อย่างนี้แล้ว ถ้าจะดื่มเบียร์ครั้งต่อไป ก็ลองคิดให้ดีๆ ก่อนดื่ม เพื่อสุขภาพที่ดี.

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์

กับแกล้มที่ดีของนักดื่ม

         กับแกล้มที่ดีของ นักดื่ม  ความจริงแล้วการดื่มเหล้านั้นเป็นการทำลาย สุขภาพ ให้ย่ำแย่ได้ง่ายที่สุุด  ดังนั้นจึงควรเลิกนิสัย นักดื่ม ให้ได้จะเป็นการดีต่อ สุขภาพ ที่สุด
     แต่ในขณะที่ยังเลิกดื่มไม่ได้หรือคุณที่นานทีปีหนจะดื่มก็ควรจะรับประทานอาหารที่ย่อยง่าย ๆ  การรับประทานอาหารหนัก ๆ  หรือมัน ๆ ทำให้ ระบบย่อยอาหาร ต้องทำงานหนักขึ้นอีกหลายเท่า  จะมีแต่โทษต่อ สุขภาพ ร่างกาย ของคุณเอง
     และถ้าไม่รับประทานอาหารใด ๆ เลยระหว่างที่ดื่มก็ยิ่งจะทำให้แย่หนักเข้าไปอีก  อาหารที่เหมาะสมมีหลายอย่าง  เช่น  ตับ  หอยแครง  หอยนางรม  หอยแมลงภู่  ปู  เต้าหู้  กุ้ง  ผัก  เป็นต้น  แต่ถ้าเป็นไปได้ก็ควรจะเลิกนิสัยเป็น นักดื่ม จะดีต่อ สุขภาพร่างกาย ที่สุด

ฟ.เฟรด